“มังคุด” ราชินีผลไม้ของไทย ที่มีประโยชน์มากกว่าแค่ผลไม้ธรรมดา
หากพูดถึงผลไม้ที่ขึ้นชื่อของไทย หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น ผลไม้อย่าง “มังคุด” เป็นแน่แท้ เพราะมังคุดได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งผลไม้” (Queen of Fruits) อาจเป็นเพราะลักษณะภายนอกของผลที่มีกลีบบนหัวคล้าย ๆ กับมงกุฎของพระราชินี เป็นผลไม้ที่จัดว่ามีประโยชน์มากชนิดหนึ่ง โดยประโยชน์ของมังคุดไม่ได้อยู่แค่เนื้อที่เรานิยมรับประทานกันเท่านั้น เปลือกมังคุดก็มีประโยชน์มากมายในการรักษาโรคเช่นกัน วันนี้เรามาทำความรู้จักกับมังคุดให้มากยิ่งขึ้นกัน…
เจาะลึกความเป็นมาของ “มังคุด”
มังคุด (mangosteen) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Garcinia mangostana Linn. ซึ่งมีข้อสันนิษฐานว่า มังคุดน่าจะมีปลูกในประเทศไทยมานานแล้ว ด้วยจดหมายเหตุของทูตจากศรีลังกาที่เข้ามาขอพระสงฆ์ไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้กล่าวถึงผลไม้ที่นำออกมารับรองคณะทูตโดยมีมังคุดเป็นหนึ่งในนั้น นอกจากมังคุด ยังเป็นอาหารแถมมีประโยชน์อื่น ๆ ให้กับคนทั่วโลกได้อีก อย่าง ชาวกานา นำมาเคี้ยวกิ่งแขนงของมังคุดเพื่อดับกลิ่นปาก, ชาวจีนใช้เปลือกมังคุดย้อมผ้าหรือหนังให้เป็นสีดำและยังนำเข้าเปลือกมังคุดแห้งไปบดเป็นผงใช้เป็นยาแก้บิดสกัดใส่ยาขี้ผึ้งใช้ทาแก้ผื่นแพ้ และ ต้มเปลือกผลมังคุดรักษาอาการท้องร่วงและทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือ แช่น้ำค้างคืนหรือทำเป็นชาชงเพื่อรักษาอาการท้องเสียเรื้อรัง, ชาวฟิลิปปินส์ใช้ใบและเปลือกต้มน้ำเพื่อรักษาอาการท้องเสีย บิด ถ่ายพยาธิ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และเชื่อว่ากินผลมังคุดจะควบคุมอาการไข้, ชาวอินโดนีเซียกินเปลือกไม้แก้บิด ต้มใบแห้งดื่มแก้ไข้ บรรเทาอาการปวดท้อง, ชาวมาเลเซีย ใช้ใบมังคุดชงผสมกล้วยดิบและใส่เบนโซอินเล็กน้อยสำหรับทาแผลที่ขลิบ ต้มรากดื่มเพื่อรักษาอาการประจำเดือนไม่ปกติ ใช้เปลือกแก้บิด, ชาวบราซิลดื่มชามังคุดเชื่อว่ามังคุดจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายเป็นปกติ ส่วนคนไทยเองก็ใช้ประโยชน์จากมังคุดได้มากมายเช่นกัน อย่างเผาเนื้อไม้เป็นถ่านไว้ใช้เป็นเชื้อเพลิง และยังสามารถนำมาทำเป็นยาสมุนไพรไทยโดยใช้เปลือกผลมังคุดตากแห้งเพื่อแก้ท้องเสีย แก้บิด และรักษาแผล
มังคุด กับ สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)
ในปัจจุบันมีงานวิจัยอยู่หลายชิ้นว่า “มังคุด” มีสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่ถูกทำลาย อย่างไรก็ตาม มีสารต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณค่ามากกว่าวิตามินหลายเท่า สารชนิดนี้เรียกว่า “แซนโทน” (xanthone) ที่มีระดับที่สูงมาก จึงทำให้มังคุดมีสรรพคุณโดดเด่นเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ สามารถรักษาอาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ออกฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็ง และหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก รวมทั้งสามารถต้านเชื้อไวรัสได้อีกด้วย.
8 ประโยชน์ของสารแซนโทนในมังคุด
“Xanthone (แซนโทน)” เป็นชื่อของสารประกอบที่สามารถพบได้ในธรรมชาติ โดยเฉพาะในมังคุด เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในกลุ่มฟลาโวนอยด์ มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลการทำงานของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ให้ทำงานปกติและเหมาะสม ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย
-
ช่วยดูแลสุขภาพช่องปาก เพราะในเปลือกมังคุดมีสารแซนโทน (Xanthtoner) ที่ทางเภสัชวิทยาได้วิจัยและยอมรับว่ามีฤทธิ์ช่วยช่องปากได้หลากหลาย เช่น ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดฟันผุ ฤทธิ์ต้านเชื้อรา ฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส และฤทธิ์ต้านการอักเสบ มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรที่รักษาช่องปากด้วย สามารถนำมาใช้เพื่อดูแลสุขภาพช่องปากได้เช่นกัน โดยการนำเปลือกมังคุดมาต้มกับน้ำใช้อมบ้วนปาก แก้ปวดฟัน เหงือกอักเสบ เหงือกบวม แผลในปาก เป็นต้น
-
ช่วยบำรุงระบบการย่อยอาหาร หนึ่งในผลกระทบของอายุที่เพิ่มมากขึ้น คือ การลดประสิทธิภาพของกรดในกระเพาะ และมีส่วนช่วยลดแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อกระเพาะอาหารซึ่งเป็นสาเหตุของ โรคท้องร่วง อาการจุกเสียดท้อง ลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยระบบการย่อยอาหาร ได้มีการพิสูจน์แล้วว่าสาร Xanthone สามารถฆ่าแบคทีเรียที่ไม่ดีเหล่านี้ได้ จึงช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารที่ดีขึ้นอีกด้วย
-
ป้องกันโรคหัวใจ โรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันเกิดจากเส้นเลือดบริเวณหัวใจขาดความยืดหยุ่น สาร Xanthone ช่วยส่งเสริมความเข้มแข็งของเส้นเลือด พร้อมต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ เมื่อเส้นเลือดแข็งแรง จะทำให้อัตราการเกิดโรคหัวใจลดลง
-
ช่วยต่อสู้และยับยั้งเซลล์มะเร็ง จากผลวิจัยบ่งบอกว่า สารสกัดจากมังคุด (Xanthone) ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของ เซลล์ลูคีเมีย และช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ซึ่งเป็นสาเหตุของการกระตุ้นมะเร็งเต้านม มะเร็งในตับ มะเร็งในกระเพาะอาหาร และมะเร็งในปอด
-
ช่วยต้านโรคติดต่อ ผลการวิจัย ที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย พบว่าสารสกัดจากมังคุด (Xanthone) สามารถหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้
-
ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว อาการผิวเสียต่างๆ เช่น โรคผิวหนังอักเสบ ผิวเปื่อย พุพอง สิว โรคเรื้อน ผื่นแดง ตัวเปลือกในมังคุดสามารถรักษาโรคได้โดยวิธีธรรมดา อย่างการใช้ยา สเตลอรอยด์ และครีมต่างๆ แต่จากการนำสารสกัดจากมังคุด (Xanthone) ไปประยุกต์ใช้รักษาโรคผิวหนังต่างๆ สามารถพิสูจน์ได้ว่าสามารถรักษาโรคผิวหนังได้ โดยไม่มีอาการแพ้หรืออาการข้างเคียงอื่นๆ
-
ช่วยป้องกันปัญหาทางสายตา โรคต้อหิน ต้อกระจก จากรังสีที่เข้ามาทำลายโปรตีนของเลนส์ในดวงตา ซึ่งสามารถป้องกันได้ ด้วยสารสกัดจากมังคุด (Xanthone)
-
ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ สารสกัดจากมังคุด (Xanthone) ได้ถูกนำมาทำเป็นยาต้านโรคไขข้ออักเสบและอาการอักเสบ และยังเป็นยาป้องกันโรคภูมิแพ้โดยไม่มีผลทำให้ง่วงนอน และผลข้างเคียงอื่นๆ